ไม่ใช่แค่ชอบ แต่ใช่เลย!
ก็อต จิราวัฒน์ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Jirawat แบรนด์เสื้อผ้าที่มีลูกเล่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากการนำส่วนผสมหลายอย่างมาผสมกัน อย่างผ้าที่ทำตัวเทคนิคครอสติช (Cross Stitch) ตัดต่อและเติมแต่งเรื่องราวของเสื้อผ้าให้ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
เรื่องราวของเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์ของแบรนด์ เกิดจากความชอบส่วนตัวรวมถึงความทรงจำวัยเด็กที่คุณแม่เป็นนักถักครอสติชและโคร์เชต์ตัวแม่ บ้างถักเป็น Accessory และถักเป็นชุดตุ๊กตา เป็น Detail เล็กๆ ในความทรงจำ ที่ต่อยอดมาจนถึงการเรียนในมหาวิทยาลัย
เมื่อสิ่งที่ถนัดกับสิ่งที่ชื่นชอบมารวมกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำให้ แบรนด์ Jirawat ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้
***
ความ Vintage ในหัวใจ
ถ้าจะให้คนนึกถึงภาพจำของแบรนด์ อย่างน้อยคำว่า Vintage ก็จะต้องปรากฎขึ้นมาในหัว เพราะสิ่งที่ต้องการสื่อและทำมาโดยตลอดคือนำเสนอความสวยงามของงาน Vintage รวมถึงความเข้ากันของความใหม่และความเก่าให้ออกมาเป็นผลงานในรูปแบบของเสื้อผ้าที่สามารถสวมใส่ได้จริง
ส่วนตัวเป็นคนชอบของ Vintage มาก เพราะว่าตัวเองเป็นคนชลบุรี ชอบเดินตลาดมือสอง รู้สึกว่าประทับใจในสิ่งของสวยงามพวกนี้ เป็นเหมือนทองคำที่คนมองข้าม แต่สำหรับตัวเองนั้นคือสิ่งของสวยงามและมีค่าที่สุด ถ้าไม่ได้กลับบ้านที่ชลบุรีเวลาว่างคือจะต้องไปเดินจตุจักรทุกอาทิตย์ เดินทั้งทั้งวันแบบไม่เบื่อ
“เพราะของ Vintage ให้แรงบันดาลใจกับเราและเป็นจุดเริ่มต้นของงานของเรา”
***
เราไม่เน้นจำนวน แต่เราเน้นคุณภาพ
ส่วนใหญ่ชิ้นงานของแบรนด์ jirawat จะทำเป็น One of a kind เพราะเราชอบความพิเศษของสิ่งของ เหมือนกับของ Vintage จะมีแค่ชิ้นเดียว จึงทำให้สินค้าส่วนใหญ่ของแบรนด์มีแค่ 1 ชิ้น เพราะเรื่องราวของสิ่งๆ นั้น มันไม่ได้หาได้ง่ายๆ จึงเป็นสิ่งของที่น่าสะสมและน่าประทับใจเมื่อใช้งานมันอย่างคุ้มค่า
– อีกหนึ่งสิ่งที่เราให้ความสำคัญคือ “เวลา” เพราะอย่างที่หลายคนทราบคืองานของ jirawat ไม่ได้ทำแบบอุตสาหกรรม 100% ยังเรียกได้ว่าเรายังเป็นงานฝีมือที่ยังทำกับมืออยู่ ดังนั้นสิ่งสำคัญของงานฝีมือคือการใช้เวลาในการทำ ทำให้ของแต่ละชิ้นที่เราตั้งใจทำขึ้นมา จะทำให้ผู้ที่ครอบครองได้ความรู้สึกพิเศษแบบที่เราตั้งใจทำ –
ถ้าไม่ใช่ Vintage แล้วจะเป็นอะไร?
– จริงๆ แล้ว เราไม่สามารถหนีความเป็นจุดกำเนิดได้ รวมถึงความสวยงามของงาน Vintage เองก็ตาม เพราะสุดท้ายแล้วคนก็จะกลับมาชอบอะไรแบบดั้งเดิมกันอยู่ดี ทั้งเพลงหรือรวมถึงแฟชั่นก็ตาม –
อาจจะไม่ได้หมายถึงเสื้อผ้าเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงงานศิลปะสาขาอื่นๆ ด้วย ตัวอย่างเช่น เราเป็นคนชอบ อันตอนี เกาดี (Antoni Gaudí) มาก เขาเป็นสถาปนิกผู้ออกแบบวิหารที่อลังการรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่หน้าตาพิลึกแต่สวยงาม คนรุ่นหลังก็ยังคงชื่นชอบและยังคงไขว่คว้าที่จะไปเยี่ยมชมงานของเขาอยู่จนถึงทุกวันนี้
เราไม่ได้ยึดติดอยู่กับความเก่าหรือความ Vintage แต่เราปรับให้เข้ากับยุคสมัย ถ้าถามว่าสิ่งที่อยากทำอะไรใหม่ๆ ก็คงจะเป็นเอางานครอสติชที่เราชอบ มารวมกับความขลังของงาน Vintage รุ่นเก๋ามารวมกัน อยากเอางานของเราไป Wrap งานของเรา อาจคลุมตึกของเขา รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ด้วยงานของเรา เพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในงานศิลปะ
***
Vintage แบบใหม่ของ Jirawat
ต้องยอมรับว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของแบรนด์ คือลูกค้าชาวต่างชาติ 80-90% แต่พอมาช่วงโควิดก็เป็นช่วงที่ช็อคของทุกคน เป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ได้ตั้งตัวไว้ ทุกคนต้องปรับตัว ทุกคนกลับมาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ไม่สามารถจับจ่ายใช้สอยได้เหมือนเดิม เราต้องปรับเปลี่ยนค่อนข้างเยอะ ลองทำ Items ใหม่ๆ ที่ไม่ใช่เสื้อผ้า เราจึงเอา Materials ที่เราชื่นชอบอย่างผ้าถักหรือครอสติช มาประยุกต์ใหม่ทำเป็นกระถางต้นไม้รวมถึง Tote Bag หรือผ้ากันเปื้อนให้ตอบสนองกับคนในปัจจุบันมากขึ้น
เพราะคนอยู่กับตัวเองมากขึ้น ใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น ทำกับข้าวเอง ปลูกต้นไม้เอง ดูเลตัวเองรวมถึงบ้านของตัวเองให้น่าอยู่มากขึ้น และอีกอย่างเราอยากอ้างอิงลูกค้าคนไทยมากขึ้น ทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งใหม่ของแบรนด์ที่ทำให้มีความสนุกสนานของสินค้ามากขึ้น
Exclusive Item only The Continuum
ปกติแล้วเป็นคนที่ชอบ Details ของไหมพรมและผ้าครอสติชอยู่แล้ว ทั้งปักใหม่และของ Vintage และของ Exclusive ที่ทำขึ้นมา อยากนำเสนอ Materials ที่เรามีรวมกับสิ่งที่เราสะสมไว้คือผ้ารันเนอร์ ปลอกหมอนผ้าทอกับกับสูทหรือสิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวัน จึงนำเสนอออกมาในรูปแบบของสินค้า Exclusive ที่เห็นกัน
อย่างเช่นเสื้อสูททรง Vintage และกระโปรงที่ตัดต่อ Materials ทั้ง 2 เข้าด้วยกันทำให้เป็นสินค้าใหม่ที่น่าสนใจและแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
***
Italy is calling
หนังสือล่าสุดที่อ่านคือเรื่อง Italy Crafted เหมือนเราได้ย้อนกลับไปตอนที่ประกวดที่ต่างประเทศ หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่นักเขียนเจอและเหมือนเราได้ไปเที่ยวกับเขาด้วย ทำให้เรานึกถึงตอนที่เราได้รับความไว้วางใจจาก Vouge Italia เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่จำมาจนวันนี้
ประสบการณ์ที่ดีเริ่มจากตัวเรา
รู้สึกตัวเองโชคดีมากที่ได้รับโอกาสดีๆ ไม่เคยเสียใจที่ทำอะไรไปเพราะเราทำเต็มที่ทุกงาน เพราะทุกอย่างที่ทำไปคือประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้รับเสมอ และไม่ได้อยากย้อนเวลาไปแก้ไขอะไร แค่อยากทำเสื้อผ้าออกมาโชว์และทำให้เสื้อผ้าของเราสามารถสวมใส่ได้จริง เกิดการซื้อขายและเพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้าให้ดีมากขึ้น
ที่ผ่านมาตอนเรียนอยู่ก็หาประสบการณ์เพิ่มเติมจากการประกวด เราทำงานประกวดส่งทั้งในและต่างประเทศ และสิ่งที่ภูมิใจคือได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ได้รับโอกาสทั้งในและต่างประเทศ จนเราได้ Vouge Italia เข้ามา Support ทำให้ไม่ได้เป็นแค่การประกวดเฉยๆ แต่ทำให้สินค้าของเราได้ขายที่ Italy ด้วย ได้พูดคุยและแปลกเปลี่ยน แชร์ความคิดเห็นในเรื่องของการขายไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราภูมิใจในตัวแบรนด์เป็นอย่างมาก
***