RUBBER KILLER INTERVIEW

by The Continuum Team

Abandoned Materials

ก่อนหน้านี้ ผมทำสินค้าที่ทำด้วยกระดาษจากต้นกล้วย ชื่อว่า รีลีฟ สตูดิโอ (Re-Leaf Studio) ใช้ต้นกล้วยที่บ้านผมมาแปรรูปเป็นกระดาษ เพื่อมาเย็บเป็นสมุด และด้วยความบังเอิญที่มันมีสมุดอยู่รุ่นหนึ่ง ตัวสันของสมุด ผมใช้ยางในรถจักรยานหรือรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้แล้ว มาทำเป็นสันปกสมุด

บังเอิญมากว่าวันนั้น ในกองยางรถจักรยาน มียางในรถสิบล้อติดมาเส้นหนึ่ง ผมก็นั่งมองยางในรถสิบล้อเส้นนี้อยู่หลายสัปดาห์ จนกระทั่งมีวันที่กระเป๋าสตางค์ที่ผมใช้อยู่เนี่ยมันขาด ผมก็เลยเอายางในรถสิบล้อเส้นนี้มาลองตัดดู เป็นแพทเทิร์นง่าย ๆ เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าและก็พับกลับมา แล้วก็เย็บ แต่ว่าตอนนั้นผมเย็บผ้าไม่เป็นและก็ไม่มีความรู้เรื่องการตัดเย็บเลย

“กระเป๋าสตางค์ใบแรกของ Rubber Killer เกิดจากการที่ใบเก่าพัง ด้วยความที่ผมเย็บผ้าไม่เป็น ผมก็ต้องไปซื้อหมุด ตาไก่ต่าง ๆ มาตอก เพราะมันง่ายสุดแล้ว

มันก็เลยเกิดเป็นกระเป๋าใบแรก ซึ่งมันก็ไม่ถูกผลิตขึ้นมาขายจริง ๆ เพราะผมไม่ได้ชอบหน้าตามันเท่าไหร่ แต่ว่ามันก็ทำให้เกิดไอเดียว่า…..เออ วัสดุชนิดนี้มันน่าสนใจนะ

RUBBER KILLER

จากกระเป๋าสตางค์ใบแรก ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดหรอกว่าจะต้องทำขาย ไม่ได้ฝันว่ามันจะเป็นแบรนด์มาจนถึงทุกวันนี้ ก็อยากจะมีชื่อ อยากจะตั้งชื่อให้มัน มันต้องเป็นชื่อที่ฟังแล้วมันรู้เลยว่า สินค้าคืออะไร

โอเค…มันต้องมีคำว่า RUBBER นี่แหละ เราก็มาคิดต่อ ซึ่งคำว่า
RUBBER KILLER
มันก็เป็นชื่อแรกที่โผล่ขึ้นมาในหัวเลย

เพราะว่าเรามองว่า เราเอายางใน (RUBBER) มาตัดและจัดการใหม่ ให้มันเกิดเป็น Object อีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมันใม่ใช่ยางในแล้ว ฟังก์ชันมันเปลี่ยนไป ก็คือการนำวัสดุเหลือใช้หรือขยะ มาจัดการให้มันเกิดใหม่อีกรอบหนึ่ง คำว่า RUBBER KILLER มันคือคำพ้องเสียงด้วย มันจะได้จำง่าย ก็เอาเลย ชื่อนี้แหละ

– เราคิดว่ามันเป็นสันดานของนักออกแบบนะ ที่ทำอะไรออกมาสักอย่างแล้วต้องโชว์เพื่อน –

ตอนนั้นไม่ได้ทำเป็นธุรกิจแต่ทำเอาสนุก แค่รู้สึกว่า เฮ้ย! ตัว Material อันนี้น่าสนใจว่ะ พอเรามีกระเป๋าใบแรกแล้ว ก็เริ่มมีกระเป๋าสตางค์ เริ่มมี Messenger Bag ทำของจริงออกมาแล้วก็อยากอวดเพื่อน ช่วงนั้นก็มีเพื่อนสนิทมาช่วย 2 – 3 คน คนหนึ่งก็คือคุณสุขุม นาคประดิษฐ์ ตอนนั้นก็มาช่วยกันทำโลโก้ ทำสติ๊กเกอร์เล่น ๆ ทำหลายอย่าง ก็ช่วยกันทำสนุก ๆ และก็มีเพื่อนอีกคน ที่เป็นคนทำกราฟฟิกหลัก ๆ ของ Rubber Killer ในช่วงแรก ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังช่วยกันอยู่ ชื่อคุณเกรียงไกร คูชัยยานนท์

ก็ไม่รู้หรอกว่าที่ทำสินค้าออกมาจะมีใครชอบไหม แต่ปรากฎว่าพอเราทำของออกมาแล้วมันมีคนชอบ เพื่อนชอบ คนใกล้ตัวชอบ เราก็เลยยิ่งรู้สึกดี เราเลยคิดว่าทำไมไม่ลองทำขายดู คนอื่นก็น่าจะชอบด้วยเหมือนกัน

Your trash is my treasure

เมื่อ 10 ปีก่อน เป็นช่วงที่ทั้งเหนื่อยทั้งสนุกมาก ผมเย็บผ้าไม่เป็น ไม่มีช่างเย็บประจำ ไม่มีจักรเย็บผ้าเป็นของตัวเอง ผมไปมามากมายไม่ต่ำกว่า 10 ที่ในเชียงใหม่ ผมเดินถือยางในรถสิบล้อเข้าไปที่ร้านตัดเสื้อ ไม่มีใครรับตัดให้ผมเลยสักคน ทุกคนส่ายหน้าหมด

ต่อมาก็ได้เจอพี่ ๆ ชาวไทยภูเขา เขาอยู่ที่ศูนย์ฝึกอาชีพ ผมก็จ้างเขาเย็บปกติ เขาเย็บกระเป๋าให้ผมรุ่นหนึ่ง จู่ ๆ เขาก็บอกว่าอยากกลับบ้านแล้ว แต่บ้านเขาอยู่บนดอยเพราะเขาเป็นชาวไทยภูเขา ด้วยความที่ชอบฝีมือของเขา เลยยกจักรไปไว้ที่หมู่บ้านของพี่ ๆ เลย แต่ก็พยายามทำแบบนั้นอยู่ช่วงหนึ่ง แต่มันไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่

เมื่อก่อนเริ่มจากขับรถแล้วหาซื้อเองตามอู่ซ่อมรถสิบล้อในเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แต่ตอนหลังพอมันเป็นบริษัทมากขึ้น เราต้องการปริมาณยางที่มันมากขึ้น ก็มีพี่ ๆ ที่หายางในส่งมาให้เรา เราก็ได้ไปคุยกับคนที่ทำงานในอู่ เพื่อสร้างอาชีพให้พี่ ๆ เขา ดีกว่าเอายางไปทิ้งแล้วมันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร เราสร้างอาชีพให้เขาขายสิ่งที่เขาไม่ต้องการ มาเพิ่มมูลค่าน่าจะดีกว่า

พอเริ่มมาตั้งบริษัทจริงจัง มี Order ที่ต้องส่งตรงตามเวลามากขึ้น วิธีการทำงานแบบนั้นมันเริ่มไม่สะดวกแล้ว ก็เลยตัดสินใจทำโรงงานเล็ก ๆ ของตัวเอง กว่าจะมาเป็นโรงงาน Rubber Killer เล็ก ๆ แบบนี้ เราก็ผ่านการทำงานกับคนมาหลายกลุ่ม ลองผิดลองถูกมาหลายรูปแบบเหมือนกัน เพราะไม่เคยมีใครทำงานกับวัสดุที่เป็นผ้าและยางในรถแบบนี้มาก่อน *หัวเราะ

RUBBER KILLER DUFFLE BAG – JEFF

งานทุกชิ้นสะท้อนออกมาผ่านรูปแบบการใช้ชีวิต

Rubber Killer ในช่วงปีแรก ๆ ในช่วงที่ยังทำงานออกแบบโดยตัวคนเดียว ก่อนที่จะมีทีม เราแทบจะเป็นทุกอย่าง หรือเรียกว่าภาพสะท้อนของตัวผมเลยแล้วกัน เช่น ผมทำกระเป๋าเพราะผมเป็นคนชอบกระเป๋า ทุกประเภทผมมีหมด เราเป็นคนชอบงานออกแบบ เราเลือกที่จะทำกระเป๋า อยากใช้กระเป๋าแบบไหน เราก็จะทำกระเป๋าแบบนั้นให้ตัวเองก่อน

ผมชอบขี่มอเตอร์ไซค์ผมก็อยากมีกระเป๋าสำหรับการติดรถมอเตอร์ไซค์ที่ผมขี่ ผมต้องมีกระเป๋าดี ๆ สักใบเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง สิ่งที่ผมชอบต่าง ๆ มันก็น่าจะส่งผลต่อการออกแบบของเราแหละ ต้องมีกลิ่นของการออกแบบ รวมไปถึงภาษาที่ใช้ในการออกแบบ ส่วนใหญ่คือ ออกแบบมาเพื่อสนองความต้องการของตัวเองล้วน ๆ

ผมเรียนสถาปัตยกรรม ผมจะเน้นเรื่องดีเทลค่อนข้างเยอะ เพราะสัดส่วนเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับผม ตำแหน่งของการวางป้าย ขนาดของสิ่งต่าง ๆ ที่เอามาอยู่บนกระเป๋า หรือแม้กระทั่งตะเข็บที่ใช้ หรือแม้การเลือกใช้ผ้าที่ไม่เหมือนกัน หรือซิปที่ใช้ในแต่ละทรงกระเป๋า มันมีอิทธิพลจากการเรียนทั้งหมด เพราะสินค้าของ Rubber killer ทุกชิ้นต้องออกมาดีที่สุด

ระยะหลังเรามีทีมออกแบบที่ทำงานด้วยกัน ทุกคนก็จะแชร์ไอเดียกัน ตอนนี้มันฮิตอะไรเราก็เอาความรู้ของคนอื่น ๆ มาคุยกัน แล้วค่อยทำสินค้าออกมา ตอนนี้ไม่ได้สนองแค่ตัวเองแล้ว มันสนองความต้องการของคนอื่นด้วยเหมือนกัน

*************

RUBBER KILLER BACKPACK – MATT

Matt , Jeff , Billy
Exclusive items

สำหรับสินค้า Exclusive เราก็มานั่งคิดว่าจะทำอะไรดีที่มันจะพิเศษและเหมาะสมกับ The Continuum เริ่มจากการที่เอาผ้า Cotton Twill ขนาด 22Oz. ในสต็อคมาซึ่งเราซื้อเก็บไว้นานแล้ว มันสวยมากและแพงมาก ตอนแรกเราไม่กล้าเอามาใช้มั่วซั่ว เพราะเรามีอยู่ไม่เยอะ และมันหาไม่ได้อีกแล้ว

RUBBER KILLER WALLET – BILLY
RUBBER KILLER DUFFLE BAG – JEFF

ทุกวันนี้เรามีทรงกระเป๋าประมาณ 30 กว่าแบบ เราตั้งใจทำสินค้า Exclusive ทั้งหมด 3 ชิ้น โดยนำผ้าที่มีมาผสมผสานรวมกับยางในรถ เราเลือกรุ่นที่เป็นทรง Classic ของ Rubber Killer ก็คือกระเป๋าเป้ Backpack ที่ชื่อทรงว่า Matt ทรงนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากทรงกระเป๋าของทหารในอดีต ประมาณยุค 50 – 60s เป็นกระเป๋า Backpack ที่เราชอบมาก ๆ ในเชิงดีไซน์และฟังก์ชั่น อีกทรงชื่อว่า Jeff ที่เป็นกระเป๋าทรงยอดนิยม ใส่ของได้เยอะ และอีกรุ่นเป็นกระเป่าสตางค์ที่ชื่อว่า Billy

***********

This world is united

เรื่องดี ๆ มันมีเยอะมากเลยนะ Rubber killer ได้พาเราไปเจอคนดี ๆ เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า บางคนซื้อของกันจนกลายเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง เจอหน้ากัน กินข้าวกัน ไปเที่ยว ไปขี่รถเล่นด้วยกัน จนกลายเป็นสนิทกัน เพราะว่า Rubber killer

การได้ไปออกงานแฟร์ต่างประเทศ ซึ่งก็ทำให้เราได้ลูกค้าใหม่ ๆ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ปี แต่เราว่าที่มากกว่านั้น คือการได้ไปดูงานของคนอื่นด้วย สำหรับผมคือเป็นผลพลอยได้ที่ดีมาก ๆ เลย เราอาจจะบอกว่าทุกวันนี้เราสามารถดูผ่านมือถือก็ได้ เราจะดูงานออกแบบที่มิลาน ปารีส นิวยอร์ก เราก็ดูผ่าน Pinterest หรือผ่าน Instagram ก็ได้ แต่มันไม่เหมือนกัน เวลาเราไปดูงานแฟร์ เราได้เห็นของจริง ๆ ที่รวบรวมมาอยู่ในงานนั้น ๆ และบางทีมากกว่าไปกว่านั้นคือคุณได้คุยกับนักออกแบบ เจ้าของผลงานนั้น ๆ เองด้วย

เราเดินดู เราชอบงานเขา เราแลกเปลี่ยนทัศนคติกัน แลกเปลี่ยนวิธีคิดคุยกัน เป็นเพื่อนกัน บางทีแลกผลงานกันยังมีเลย อย่างผมเอากระเป๋าไปแลกกับนาฬิกา ไปแลกกับงานเซรามิก เกิดขึ้นบ่อยทุกครั้งที่ไปแฟร์ บางทีกลายเป็นเพื่อนกัน Keep Intouch ติดต่อกัน แลกอีเมล แลก Facebook กัน เป็นเพื่อนกันถึงทุกวันนี้ก็ยังมี สนุกครับ ชอบมาก

RUBBER KILLER PURI MESSENGER BAG

Copy ?

บางคนเคยพูดไว้ ถ้าสมมุติว่ามีคนก๊อปปี้งานเรา นั้นแปลว่าเราประสบความสำเร็จ ซึ่งผมก็พยายามจะคิดอย่างงั้นแหละ จริง ๆ ก็เป็นการปลอบใจตัวเองจะได้ไม่ต้องเครียด

ก็มีคนก๊อปปี้งานของ Rubber Killer มาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ที่เราทำแล้ว จนผ่านมา 10 ปีก็ยังมีอยู่ มันก็น่าเจ็บปวดเนอะ แต่ถามว่าเราไปซีเรียสกับตรงนั้นมากไหม เราก็พยายามมองว่ามันเป็นเรื่องปกติของการออกแบบละกัน

การออกแบบกระเป๋า เราพยายามหนีมานานแล้ว ปรับแบบ มีรุ่นใหม่ ๆ เกิดขึ้นเสมอ เราพัฒนาคุณภาพของการผลิต เราหาผ้าดี ๆ อย่างเช่น Cordura เรากล้าพูดเลยว่าเราเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ที่นำเข้าอย่างถูกต้อง และเราได้ License จากบริษัทผู้ผลิตเป็นทางการ

ตอนนั้นจะเรียกกว่าโกรธหรือเปล่าก็ไม่รู้ โอเค มึงก๊อปกระเป๋า มึงก๊อปได้ กูหนีไปทำรองเท้า เพราะมันยาก!

จริง ๆ จะเรียกว่าแก้ปัญหาหรือแก้เผ็ด ไม่แน่ใจเหมือนกัน เช่น ผมทำรองเท้าออกมา รองเท้าผมชื่อรุ่นว่า แอนดี้ ทำจากยางในรถยนต์ เรารู้เพราะกว่าเราจะทำรองเท้าได้ เราต้องลองผิดลองถูกกับช่างทำรองเท้าอยู่ประมาณ 6 เดือน ซึ่งอันนี้เป็นการพยายามจะหนีด้วยแหละ

RUBBER KILLER KEN WALLET
RUBBER KILLER KEN WALLET

AFTER THE LONG JOURNEY

การเปลี่ยนแปลงหรอ?! คิดว่าไม่ค่อยเปลี่ยน ก็ยังเป็นคนนิสัยเหมือนเดิม

อาจจะเปลี่ยนไปในเรื่องของการทำงานซะมากกว่า ผมว่ามันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีนะ ทำให้เราต้องคิดวางแผนต่าง ๆ ให้รอบคอบ แล้วก็ต้องมีความรับผิดชอบในการทำงานมากขึ้น

บริษัทมันก็ใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามทิศทางการเติมโตของมัน นั่นมันก็แปลว่าต้องมีพนักงานที่มากขึ้น รายจ่ายที่เยอะขึ้น แต่ก็ทำให้เราเป็นคนที่รอบคอบมากขึ้น เป็นคนที่รับผิดชอบในเรื่องต่าง ๆ มากขึ้น

เราอยากจะผลิตสินค้าดี ๆ ที่ใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การตัดเย็บ รวมไปจนถึงการเลือกใช้วัสดุต่าง ๆ ที่นำมาผลิต ให้ผู้บริโภคได้มีสินค้าดี ๆ เหมือนที่ทำมาตลอด 10 ปี อยากทำให้มันดีกว่าเดิม นั่นคือสิ่งที่เราหวังไว้

IT’S BACK TO YOUR HANDS







other story

BANGKOK WET DREAM INTERVIEW

เราอยู่ในความฝันที่เปียก ชื้น แฉะ ของสารวัตร กับแบรนด์ที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Homoerotic-Political ผ่านผ้าขนหนู กับ Bangkok Wet Dream

Explore

BAAN BOON INTERVIEW

แบรนด์ไม้กวาดข้าวฟ่าง จากธุรกิจครอบครัวที่ส่งออกไม้กว่ามากกว่า 34 ปี ถูกรื้อ คัดและสร้างใหม่โดยลูก ๆ ด้วยเหตุที่ว่า... ทำไมไม้กวาดที่เราจับทุกวันต้องซ่อนตัวอยู่ในมุมบ้าน?!

Explore

Shopping cart0
There are no products in the cart!
Continue shopping