BAAN BOON INTERVIEW

by The Continuum Team

บ้านบูรณ์ แบรนด์ไม้กวาดข้าวฟ่างที่ส่งออกนานาประเทศนับไม่ถ้วน จากธุรกิจครอบครัวที่ส่งออกไม้กวาดชั้นเยี่ยมมากกว่า 34 ปี รื้อ คัดและสร้างใหม่โดยลูก ๆ ที่เข้ามาสานต่อกิจการให้มีตัวตนชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยเหตุที่ว่า…

ทำไมไม้กวาดที่เราจับทุกวันต้องซ่อนตัวอยู่ในมุมบ้าน?!

ไม้กวาดข้าวฟ่างฝีมือคนไทยที่ส่งออกต่างประเทศอย่างญี่ปุ่น สวีเดน เกาหลี นำทีมโดยคุณพ่อ สมบูรณ์ วิวัฒนานุกูล คุณพ่อของครอบครัวสุดอบอุ่นและอารมณ์ดี เล่าถึงคอนเซ็ปต์ของการทำไม้กวาดข้าวฟ่างไว้…สิ่งแรกที่นำเสนอให้ลูกค้าเห็นผ่านไม้กวาดของบ้านบูรณ์ คือ ดีไซน์และความสวยงามที่มาพร้อมกับคุณสมบัติการใช้งานที่ดี คงทนและใช้งานได้จริง เมื่อใช้เสร็จไม่จำเป็นต้องเอาไปซ่อนตามมุมบ้าน และความสวยงามของไม้กวาดนี้ ยังเป็นทั้งของตกแต่งบ้านได้อีกด้วย

BAAN BOON – 2 TONE JAPANESE SORGHUM BROOM

อีกทั้งการทำไม้กวาดแต่ละชิ้น คือการส่งเสริมและสนับสนุนงานฝีมือของชุมชน ที่สามารถสร้างรายได้ให้ชาวบ้านได้อย่างยั่งยืน เพราะรายได้หลักส่วนใหญ่ของป้า ๆ น้า ๆ ในชุมชน ได้จากผลผลิตทางเกษตรกรรม แต่ละปีมีรายได้ไม่แน่นอนเอาซะเลย ด้วยความที่ไม่อยากให้ฝีมืองานหัตถกรรมของกลุ่มคนฝีมือดีเลือนหายไป บ้านบูรณ์จึงสนับสนุนและรักษางานตรงนี้ไว้สืบไป

**************

ทำไมต้องเป็นบ้านบูรณ์

คุณตูน ผู้ให้สัมภาษณ์กับทาง The Continuum เล่าได้อย่างอบอุ่น

ครอบครัวตัว “บูรณ์” เกิดจากที่ลูกหลาน หรือแม้กระทั่ง ป้า ๆ น้า ๆ ช่างฝีมือ เรียกคุณพ่อว่า คุณพ่อบูรณ์ (ชื่อเล่น) เป็นกิจลักษณะอยู่แล้ว ประจวบเหมาะกับที่คุณพ่อและคุณแม่เล่นคำด้วยการตั้งชื่อลูก ๆ ให้มีคำว่าบูรณ์ทั้ง 3 คน คือ บูรณิตา , บูรณ์เมตต์ และบูรณา เปรียบเสมือนหมู่บ้านที่มีแต่คนชื่อบูรณ์ และทำธุรกิจด้วยกัน จึงเป็นที่มาของชื่อ “บ้านบูรณ์”

***********

หญ้าข้าวฟ่าง คือ นางเอก

ถ้าสังเกตดูจากภาพยนต์หรือสื่อต่างประเทศ จะเห็นได้ว่าหญ้าข้าวฟ่างได้นำมาใช้ทำไม้กวาดอยู่เป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา แต่ก่อนบ้านบูรณ์เริ่มจากการหาดอกหญ้าเอง แต่ด้วยจังหวะและเวลา เกิดจากการชักชวนของคนรู้จัก ลูกค้าชาวต่างชาติก็แนะนำให้หาวัถุดิบที่ดีขึ้น เพื่อส่งออกไม้กวาดและเพื่อขยายตลาดนอกประเทศไทยบ้าง

และสิ่งที่ทำให้บ้านบูรณ์แตกต่างคงเป็นการต่อยอดทางความคิด เราเชื่อว่า บ้านบูรณ์มีแบบทั้งไม้กวาดและแปรง ถ้ารวมทุกสี ทุกขนาด น่าจะถึงพันแบบ

บ้านบูรณ์เลือกใช้หญ้าข้าวฟ่างเป็นนางเอกของแบรนด์ เพราะความมหัศจรรย์ของข้าวฟ่างที่มีคุณสมบัติมากมาย ทั้งความแข็งแรง และสามารถช่วยดีดเศษฝุ่นที่ติดตามซอกออกมาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังใช้ได้ในที่เปียกและที่แห้งได้อีกด้วย ความหนาและความแน่นของหญ้าข้าวฟ่าง ทำให้ใช้งานได้อย่างไร้ที่ติ ซึ่งหญ้าข้าวฟ่างไม่ใช่พืชที่ปลูกที่ไหนก็ได้ แต่ต้องเอาใจใส่ในการปลูกด้วยเช่นกัน

สีที่แสบสันของไม้กวาดบ้านบูรณ์ อ้างอิงจากต้นตำรับตามประเพณีนิยมของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดหลักของวัสดุนี้ ที่นั่น..ใช้สีธรรมชาติและย้อมเพียงแค่สีเดียว คือสีเขียวมินต์ แต่เมื่อตัดสินใจขยายธุรกิจส่งออกไม้กวาด ต้องหาสิ่งที่แปลกและแตกต่างของแบรนด์ ไม่รอช้า ไม้กวาดหญ้าข้าวฟ่างของบ้านบูรณ์ไม่ใช่สีเดียวอีกต่อไป เริ่มทดลองย้อมสีเอง ผสมเอง

ณ ปัจจุบัน บ้านบูรณ์มีสีที่ใช้ในการย้อมไม้กวาดมากกว่า 15 เฉดสี สามารถย้อมหญ้าได้ติดทนนาน สีไม่ตกและที่สำคัญสามารถโดนน้ำได้

การลบภาพเดิม ๆ ที่ว่าด้วยไม้กวาดเป็นแค่อุปกรณ์ทำความสะอาดนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี เพราะว่าเห็นจากลูกค้าหลายท่านที่เอาไม้กวาดบ้านบูรณ์ไปใช้งานจริงและแขวนประดับ หรือให้เป็นของขวัญในวันสำคัญ ก็ถูกใจกันถ้วนหน้า ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้น่าพอใจเป็นอย่างมาก จากการเห็นลูกค้าหลายท่านเข้าใจสารที่เราต้องการจะสื่อออกไป

Best for Use, Good for Decor”

วลีที่คุณแม่เป็นคนคิดและตั้งขึ้นเพื่อเป็นสโลแกนหรืออะไรก็แล้วแต่ของบ้านบูรณ์ ในขณะเดียวกันก็ตั้งคำถามว่า

ทำไมไม้กวาดเอามาโชว์ไม่ได้ ทำไมต้องซ่อน !?

ถ้าเราทำให้ไม้กวาดให้มันน่ามอง ทุกวันของเราก็น่าจะมีสีสันมากขึ้นหรือเปล่า ซึ่งคำตอบที่ได้ ก็เห็นได้จากผลผลิตที่ออกมาเป็นไม้กวาดหรือแปรงต่าง ๆ ของบ้านบูรณ์ ไม่ต้องหลบซ่อนไม้กวาดอีกต่อไป เป็นได้ทั้งไม้กวาดและของตกแต่งได้อย่างไม่อายใคร

ตอนแรกก็ตั้งใจจะขายกันเงียบ ๆ โปรโมทหรือดำเนินการไปตามลำดับ เพราะงานหลักของเราคือการส่งออก แต่นับจากตอนเริ่มทำแบรนด์จริงจัง ถือว่าคนมีเริ่มรู้จักแบรนด์มากขึ้น เป็นที่น่ายินดีอย่างไม่ทันตั้งตัว ซึ่งจริง ๆ แล้วสิ่งที่ทำให้คนเปิดรับบ้านบูรณ์ คือเป็นตัวของผลิตภัณฑ์เอง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คนไทยไม่คุ้นชิน สินค้าของแบรนด์จึงเป็นที่เตะตาคนไทยได้อย่างทุกวันนี้

ลูกค้าที่เข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นการบอกต่อปากต่อปาก แต่ก็ยังมีอะไรที่สามารถพัฒนาไปได้อีกเยอะ เพราะกลุ่มลูกค้าที่รู้จักจะเป็นเฉพาะกลุ่ม เมื่อถ้ามองภาพรวมส่วนใหญ่จะเป็นคนในวงการออกแบบ และคนที่รักการแต่งบ้าน ยังไม่เป็นที่รู้จักขนาดที่ทุกคนเข้าถึงได้ บ้านบูรณ์ยังถือว่าเพิ่งเริ่มต้นและใหม่มาก

ธุรกิจที่เป็นมากกว่าครอบครัว

— พี่ ๆ หลายคนที่เป็นช่างฝีมือของแบรนด์ อยู่ด้วยกันตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อ ก่อนที่ตูนจะเกิดด้วยซ้ำ เห็นเราและอุ้มเรามาตั้งแต่เด็ก ๆ ทุกท่านผ่านการฝึกฝนและพัฒนาทักษะอย่างยาวนาน จากการสอนงานจากคนญี่ปุ่น เรียกได้ว่า เรียนจากต้นตำรับ จนตอนนี้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวไปแล้ว ถ้าเรียนวิชาการก็มีคุณครูที่คอยสอน แต่ถ้าเรื่องของการทำไม้กวาดซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว ก็มีพี่ ๆ ที่คอยสอนงานนี้กับเรา —

คุณตูนพูดถึงคุณป้า ๆ น้า ๆ สุดยอดช่างฝีมือ ได้อย่างน่ารัก

**************

BAAN BOON – 2 TONE JAPANESE SORGHUM BROOM

EXCLUSIVE ITEM FOR THE CONTINUUM

ตัวสินค้า Exclusive ที่บ้านบูรณ์ทำขึ้นมาขายพิเศษเฉพาะ The Continuum ในครั้งนี้ บ้านบูรณ์ได้เล่นสนุกด้วยการใช้ 2 สี ในด้ามเดียว ไม้กวาดหญ้าข้าวฟ่างออร์แกนิคนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ด้ามจับทำจากไม้ไผ่ขนาดพอดีมือ หุ้มฟิล์มสีเบอร์กันดี พร้อมเทคนิคการสานหัวไม้กวาดเป็นลายตารางสลับกันไป เพิ่มมิติทั้งในแง่สีที่นำมาย้อม และเทคนิคในการสาน

ตัวสินค้า Exclusive ที่ทำขึ้นมานี้ ได้แรงบันดาลใจจากแพลทฟอร์มที่สีสันแสบซ่าอย่าง The Continuum ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจในการทำไม้กวาดที่ใช้สีมากขึ้น และคุณพ่อเป็นคนเสนอแนะดีไซน์ต่าง ๆ ขนาด รวมถึงความสนุกสนานและการใช้งานได้จริง

คุณพ่อบูรณ์ ศิลปินที่ทำธุรกิจ

ไม่รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่ เอาเวลาและพลังจากไหนมาทำได้เยอะขนาดนั้น ซึ่งจากที่สังเกตก็ยังไม่เคยเจอที่ไหนบ้าพลัง ทั้งพลังกาย พลังไอเดียเท่าที่นี่แล้ว *หัวเราะ

คุณพ่อเป็นคนมี Passion ในการทำงาน จะหยิบจับอะไร ต้องชอบสิ่งนั้นมาก ไม่งั้นจะไม่ทำเด็ดขาด ถ้าคุณพ่อไม่ทำธุรกิจ ก็คงจะเป็นมัณฑนากร ไม่ก็นายแบบ มีพรสวรรค์เรื่องการโพส ชอบถูกถ่ายรูปมาก

คุณพ่อเป็นสาย คิดปุ๊บทำเลย ทำวันนั้นเลย แต่ก็ผ่านการเรียนรู้ ทดลองมาเยอะมาก เคยคิดว่าถ้าให้เรามาธุรกิจแบบเดียวกัน เริ่มต้นใหม่เอง คือ ไม่มีทางทำได้แน่นอน รายละเอียดหรือความเสี่ยงมันเยอะมาก ที่คุณพ่อผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ คือเก่งมาก ๆ ต้องยอมรับเลย

— ในเชิงธุรกิจ คุณพ่อเป็นคนมองโลกในแง่ดี เป็นนักให้อภัย เหตุการณ์เลวร้ายแค่ไหน คุณพ่อก็ผ่านมาได้เสมอ เพราะคุณพ่อเป็นคนอารมณ์ดีมาก เลิกงานกลับมาถึงบ้าน อย่างแรกที่ทำคือเปิดโทรทัศน์ดู หัวเราะสนุกมาก บทสนทนาที่ชอบคุยกันเลยเป็นเรื่องรายการทีวี ละคร และเมาท์ดารา 5555 คุณพ่อรู้จักดาราเด็ก ๆ สมัยนี้เยอะกว่าตูนอีก —

ทะเลาะกันเอง หงุดหงิดกันเองเยอะที่สุดค่ะ *หัวเราะ

ในเชิงธุรกิจ ยุคสมัยเปลี่ยน ตลาดเปลี่ยน พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยน คุณพ่อดูสนุกมากกว่ากังวล ชอบถามว่ารุ่นไหนขายดี รุ่นนี้ลูกค้าชอบหรือเปล่า แต่ทั้งหมดก็คือการทำงาน เราก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง

ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องความคิดเห็นในการทำงานที่ไม่ตรงกัน หรือการสื่อสารกันไม่เข้าใจซะมากกว่า เพราะหน้าที่ในบริษัทเรามีบางส่วนที่ทับซ้อนกัน เช่นเรื่องการวางแผน กระจายงานผลิต เพราะถ้าเราเข้าใจไม่ตรงกันเอง พี่พี่ที่รับเรื่องต่อไปก็จะสับสน แต่ปัจจุบันถือว่าดีขึ้นมาก ๆ

ช่วงแรกที่เข้ามาช่วยต้องปรับตัวเยอะมาก แต่โชคดีที่คุณพ่อเปิดใจ มองย้อนไปแล้วเค้าปรับหลาย ๆ อย่างให้การทำงานร่วมกันราบรื่นขึ้น พยายามรับฟังในความคิดจากประสบการณ์ในอดีตของคุณพ่อมากขึ้น ส่วนน้องชายแทบไม่ทะเลาะเลย เพราะเหมือนแบ่งหน้าที่กันชัดเจน รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการให้อีกฝ่ายทำอะไร เข้าใจตรงกัน

เห็นไม้กวาดของบ้านบูรณ์ แล้วนึกถึง Harry Potter

— จริงๆ มีทำไม้กวาดสไตล์พ่อมด แม่มด มาตั้งแต่ก่อนมี Harry Potter ออกมานานแล้ว เพราะว่าชาวต่างชาติจะมีแต่งตัวธีมฮัลโลวีนกันอยู่แล้ว ในอดีตคุณพ่อคุณแม่จะมีออเดอร์ไม้กวาดสไตล์นี้ จากลูกค้าฝั่งสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนมาก แต่พอมี Harry Potter ก็ทำให้การทำไม้กวาดสนุกขึ้น เหมือนลูกค้ามีภาพจำของไม้กวาดที่ไม่น่าเบื่อ สร้างสรรค์ ซึ่งเราก็ชอบ –

ไม้กวาดแต่ละทรงของบ้านบูรณ์จะเริ่มจากแบบประเพณีนิยมจากญี่ปุ่นกันอยู่แล้วตามที่บอกไปข้างต้น แต่เราเอามาปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่และลักษณะการใช้งานมากกว่า ถ้าส่วนตัวคิดว่าผลิตภัณฑ์ที่แสดงตัวตนของบ้านบูรณ์ที่สุด คือ แปรง เกิดจากการที่คุณพ่อเห็นว่ามันมีเศษวัตถุดิบที่เหลือจากการทำไม้กวาดที่ไม่ได้เสียหาย จึงนำมาออกแบบตามลักษณะของหญ้าที่เหลือ แล้วปรับตามเทคนิคที่ทดลอง เรียนรู้ คุณแม่และพี่พี่ที่โรงงานก็มีส่วนสำคัญในการช่วยออกแบบ ในอดีตมีทำเป็นทรงหัวหอม แครอท เอาด้ายมาแต่งทำเป็นหน้ายิ้ม เป็นต้น

**************

เพราะโตมาด้วยกัน จึงผูกพัน

ตั้งแต่เด็ก ๆ เราก็ผูกพันกับแบรนด์บ้านบูรณ์มาอยู่แล้ว อาจจะเพราะ DNA ของเรา ชื่อเรา และครอบครัวของเรา รักและผูกพันกับธุรกิจนี้มาก เคยถามคุณพ่อว่าคุณพ่อเคยทำธุรกิจอะไรมาบ้าง แต่คำตอบที่ได้คือเสียงหัวเราะจากคุณพ่อ

จำไม่ได้ นับไม่หมด —

“ส่วนตัวเป็นคนไม่อินกับการเป็นผู้ผลิต โดยเฉพาะการผลิตที่อิงกับผลผลิตทางการเกษตร เพราะมันมีความไม่แน่นอน ปัจจัยภายนอกที่เรากำหนดไม่ได้มากมาย แต่พอมาถึงจุดนี้ เราทิ้งไปไม่ได้ รู้สึกผูกพัน โตมาด้วยกัน”

คำตอบที่ได้จากคุณตูน เมื่อถามว่า ถ้าไม่ทำบ้านบูรณ์ คิดจะทำอะไร

ก้าวต่อไปของบ้านบูรณ์ อยากให้เป็นแบรนด์ที่มีเรื่องราวติดตัว นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โตไปกับผู้ใช้ ให้ลูกค้าได้รู้สึกมีส่วนร่วม สนุก เวลานึกถึงแบรนด์ อยากให้นึกถึงความเป็นครอบครัว อบอุ่น กันเอง ไม่ละทิ้งความเป็นชุมชน ความประณีตของงานฝีมือและที่สำคัญคือคุณภาพเหมือนที่ทำส่งออกแบบนี้ไปตลอด

ในอนาคตอยากที่จะขยายตลาดกลุ่มใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับสิ่งที่ทำอยู่ ขยายผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น และนำวัสดุที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สุดท้ายจากสถานการณ์โควิด-19 แค่ Sustainable มันคงไม่พอ มันต้อง Resilient ด้วย 

LOGO ของแบรนด์บ้านบูรณ์คือลายมือคุณพ่อ

ธุรกิจนี้เป็นสิ่งที่คุณพ่อเป็นคนสร้างมา จึงอยากได้อะไรที่แสดงความเป็นตัวคุณพ่อที่สุด อยากให้เขาได้รับเครดิตจากความเหนื่อยมาก ๆ ในอดีต พอจะทำแบรนด์ ก็เลยจับให้เค้าคัดลายมือ เขียนคำว่า “บ้านบูรณ์”



other story

THANIYA1988 INTERVIEW

THANIYA1988 ชื่อแบรนด์ที่ตั้งจากชื่อจริงและปีเกิดของคุณแมทช์ "ฐาณิญา เจนธุระกิจ" เจ้าของแบรนด์เครื่องหอมและของตกแต่งบ้านจากเซรามิก

Explore

MAYA WONG INTERVIEW

Maya Wong แบรนด์เสื้อผ้าแหวกแนวที่เล่าเรื่องราวผ่านความรู้สึก ความชอบและการใช้ชีวิต รวมถึงการแสดงจุดยืนทางสังคมผ่านตัวแบรนด์และตัวเอง

Explore

Shopping cart0
There are no products in the cart!
Continue shopping