ความชอบ ไม่เคยห่างความใช่
เราคงเคยได้เห็นมวลดอกไม้ของ PHKA Studio นั้นงดงามอลังการมาก จึงถามถึงจุดเริ่มต้นของ PHKA Studio — ด้วยความที่ดอกไม้ คือสิ่งที่ชอบ และการเรียน Interior คือสิ่งที่ใช่ สามารถรวมกันได้โดยไร้ที่ติ ปอยและปอป้อ จึงนำจุดสนใจร่วมกันของทั้ง 2 สิ่งนี้ สร้างเป็น Studio ที่รังสรรค์ดอกไม้ให้เกิดเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายได้
เริ่มจากที่ปอยเคยผ่านการฝึกงานในร้านดอกไม้มาก่อน และด้วยความชอบแต่ก็ไม่อยากทิ้งความรู้ที่เรียนมา อย่างสถาปัตย์ฯ — 7 ปีที่แล้ว ทั้งคู่มองว่าดอกไม้ที่สามารถส่งเสริม Space ยังไม่ค่อยมี แต่ทั้งคู่มองว่ามันสามารถเป็นไปได้ ดอกไม้ที่สามารถส่งเสริม Space จึงเกิดเป็น PHKA Studio ขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน
*****
ดอกไม้ไม่ได้ไว้แค่ประดับ – แต่เป็นวัตถุดิบที่ใช้เล่าเรื่องราว
ถ้าได้ติดตามผลงานของ PHKA Studio และผลิตผลที่หลากหลายของ 1000 Malai Store ที่เป็นหนึ่งในการต่อยอดจากการจัดดอกไม้ออกมาเป็น Accessories และของประดับที่นำเอาความสวยงามของดอกไม้มารวมเข้ากับหมู่มวลต่างๆ ใครเห็นก็จะรู้ว่านี่แหละ PHKA Studio และดอกไม้คือตัวแทนแห่งดวงจันทร์ที่ช่วยสื่อสารเรื่องราวความคิดของดีไซเนอร์
”เราคิดว่าดอกไม้ว่าเป็น Material หนึ่งของเรา”
ด้วยความเป็น Studio ไม่ใช่ Artist หรือ Florist ดังนั้นดอกไม้เป็นเหมือน Material หนึ่งของเราที่เอาไว้ใช้เล่าเรื่องต่างๆ ได้ คิดว่าปลายทางสามารถ Apply ได้หลายศาสตร์ ซึ่งส่วนมากก็ทำเป็นแบบ Installation เป็น Space ซะส่วนใหญ่
เรื่อง 2D หรือศาสตร์ที่เป็น textile โดยตรง และยังไม่เคยได้ลองจริงจัง และด้วยความสนใจที่อยากให้ดอกไม้เล่าเรื่อง ทาง PHKA Studio จึงจับมือกับ One More Thing ซะเลย ลองมาจัดดอกไม้บนผ้า Jacquard ที่ก่อให้เกิดความสนุกสนานกับการทดลอง
“ช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่โควิดระบาดใหม่ๆ งานปกติที่เป็น Event ก็ต้องพักไปก่อน จริงๆ สิ่งที่จัดลงบน Textile ก็คือสิ่งที่เราอยากจะ Explore มาตลอดอยู่แล้ว แล้วได้โอกาสที่คุณโอ (ศรัณย์ เย็นปัญญา) ชวนร่วม Project พอดี เป็นจังหวะเหมาะที่จะได้ลองทำอะไรประมาณนี้
ซึ่งแบบที่ PHKA Studio เคยทำส่วนมากจะเป็นถ้าลงบน 2D จะ Paint ลงกระดาษหรือเป็น Digital Print แต่ว่าของ One More Thing (OMT) ต่างออกไป เพราะเป็นการทำงานลงบน Textile การทอ ซึ่งงาน Texture ก็จะ Explore ได้หลายแบบ”
PHKA Studio เจ้าหนูนักทดลอง” กับผ้า Jacquard
ปอป้อเสริม “เริ่มจากการ Explore เทคนิคก่อนว่าดอกไม้ที่เรามีอยู่ จริงๆ ก็เอามาจากสตูดิโอนี่แหละ ว่าสามารถเอามาทำเป็น Motive หรือเป็นชิ้นงานได้อย่างไรบ้าง ซึ่งเราก็ทำงานร่วมกับน้องที่เป็นดีไซเนอร์ ด้วยการทดลองหลากหลายวิธีมาก”
เริ่มแรกคุยกันว่าใช้เทคนิค Paint Brush คือการเอาดอกไม้มาเป็น brush อย่างหนึ่ง น้องดีไซน์เนอร์ทดลองด้วยการลองแสตมป์ๆ สร้างลวดลายเพื่อที่จะเอามา Collage ในขั้นตอนต่อไป
อีกหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจก็คือ Cyanotype (ไซนาโนไทป์) ซึ่งเป็นการพิมพ์แบบใช้สารเคมีและทำปฏิกิริยากับแสงแดดเพื่อให้เกิดลวดลายที่แปลกตามากยิ่งขึ้น ผลลัพธ์จะเห็นเป็น Silhouette เลือนๆ และอีกหลายเทคนิค
ซึ่งเทคนิคหลักๆ ที่นำมาใช้จริงๆ ก็จะมี Cyanotype และ Digital Collage ด้วย ซึ่ง Digital Collage คือการเอาดอกไม้มาถ่ายรูปเป็นอย่างแรก แล้วก็เอามาดัดแปลง Composition และนำมา Collage อีกครั้ง ซึ่งค่อนข้างใช้เวลาในการทำที่นาน
การที่ PHKA Studio ไม่ได้ทำ Textile เป็นหลัก บางทีผลลัพธ์ที่ทดลองออกมาเหมือนภาพพิมพ์จริงๆ แต่เมื่อนำมาทอเป็นผืนผ้าจริงๆ บางชิ้นงานก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้น จึงต้องกลับไป Research ใหม่ กลับไปดูลาย Pattern จากเทคนิคเก่าๆ ลาย Vintage ว่าเขาต่อลายกันอย่างไร มีเทคนิคอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง
ยัง! … ยังยากไม่สุดกับการเอาดอกไม้ที่จัดจากระบบสามมิติมาสู่สองมิติ
นอกจากเรื่องของเทคนิคที่อยากทำบนผ้า Jacquard แล้ว สิ่งหนึ่งที่ยากสำหรับ PHKA Studio คือถนัดเรื่องของฟอร์มที่เป็นธรรมชาติของดอกไม้ เพราะการจัดดอกไม้ไม่มีดอกไม้ไหนไม่สวย แค่เราต้องหันด้านที่สวยงามของดอกไม้ออกมา
ปอป้อเสริม “การทำงานบน Textile ที่เปลี่ยนไป มันก็ต่างกันมากพอสมควรเลย ด้วยความที่ดอกไม้เป็น 3 มิติ งานที่เราทำไม่ว่าจะเป็นแบบชิ้นเล็กตั้งแต่เป็น Bouquet หรือว่างานใหญ่แบบเป็น Scale Event คืองานจบในตัว เราต้องมองให้งานสวยงามลงตัวทุกด้าน แบบ 360 องศา
แต่เรื่อง Textile กับลายผ้าทอ 2 มิติ มันต่างออกไป แต่หลักๆ แล้วลายผ้าจะต้อง Repeat ได้ ต้องสวยด้วย ความยากคือ ทำอย่างไรให้ลวดลายที่รังสรรค์ออกมา สามารถ Blend ไปด้วยกับกับผืนผ้า และไม่เขินกับดอกไม้”
The Floral Shuttle และในที่สุดก็ได้ออกมาเป็นลายผ้าที่บอกว่าฉันนี่ละคือ PHKA Studio!
จุดยากอีกจุดหนึ่งของ Collection : The Floral Shuttle นี้ คือการออกแบบลายผ้าแล้วต้องดูเป็น PHKA Studio มากที่สุด ด้วยความที่สินค้าที่เป็นลายดอกไม้มีมากมายในท้องตลาด แต่โจทย์คือทำอย่างไรให้ไม่เหมือนที่อื่น และทำอย่างไรให้ดูร่วมสมัย PHKA Studio ต้องหารือกันเรื่อง Key Message หลักๆ ที่เราต้องการจะสื่อออกไป มันคืออะไร?
Contemporary , Sophisticate , Unexpected
คือตัวตนของ PHKA Studio กล่าวง่ายๆ คือ ความร่วมสมัยของชิ้นงานและเหนือความคาดหมาย ใน Collection นี้ จึงได้เลือกใช้ดอกไม้ท้องถิ่นที่น้อยคนจะนำมาใช้สร้างงาน เพราะวงการดอกไม้หมุนเร็วกว่าวงการ Fashion ซะอีก! จึง Back to Basic เลือกใช้ดอกไม้ไทยมาใช้ในงานนี้
ซึ่งจะเห็นได้ในลายผ้าที่ตั้งใจออกแบบ จะเห็นดอกพลับพลึง ดอกดองดึง แล้วก็พวงแสด (ถึงตอนนี้เราต้องกด Google ตามไปดูรูปพลับพลึง เพราะไม่เคยรู้จักตัวจริงของน้องเลย) ถ้าดูอย่างละเมียด PHKA Studio นำดอกไม้ที่เห็นได้ตามข้างทางที่กล่าวไปข้างต้น เอามา Modify ให้ดูร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น
*The Continuum จึงลองแซวว่า…อย่างนี้ทีมงานต้องไปเก็บดอกไม้ตามข้างทางจริงๆ ไหม? คำตอบออกมาว่า “ใช่ค่ะ เราสำรวจและเก็บดอกไม้ข้างทางมาทำใน Collection นี้จริงๆ” ปอยบอกกับเราต่อว่า “ปกติดอกไม้พวกนี้จะไม่ได้อยู่ใน Bouquet ในช่อดอกไม้อะไรอยู่แล้ว แล้วพอเราได้เอามาทอ เอาเข้าไปอยู่ในลายผ้าแล้ว รู้สึกภาคภูมิใจ”
“เหมือนเป็นการ Express ตัวเราเองด้วย ไม่ได้ทำเพื่อแบบตอบโจทย์ลูกค้าเท่านั้น ความภาคภูมิใจของแบรนด์ต่อยอดไปที่ความภาคภูมิใจในความไทยแบบ OG”
ปอยเสริม “สิ่งที่ภูมิใจมากใน Collection นี้ คือการที่ได้เห็นดอกไม้ที่ปกติเราไม่ได้เห็นในงานทั่วไป ได้นำมาร้อยเรียงใหม่ผ่านผืนผ้า เพราะว่าพวกดอกไม้ข้างทางต่างๆ ที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็ก เราไม่เคยคิดว่าเราเห็นงานที่สามารถนำดอกไม้เหล่านี้มาใช้ได้เลย”
เราจึงมอบคำนิยามสำหรับ Collection นี้ให้ว่า PHKA Studio ผู้เปลี่ยนการจัดดอกไม้บนแจกัน มาจัดดอกไม้ผ่านผืนผ้าทอ กับเทคนิคการทอ Jacquard ความลับเฉพาะของ One More Thing ร่วมกันสร้างผลงานใหม่ เกิดเป็น New Collection ที่มีชื่อว่า ” The Floral Shuttle “ เกิดเป็นผลงาน Lifestyle Product ที่สามารถถือดอกไม้ไปได้ทุกวัน
Instagram : @PHKA_Studio : Click Here!
Instagram : @Onemorething_omt : Click Here!
PHKA Studio Website : Click here!
Click here to Shopping : Click Here!
